ความสมบูรณ์ของ DNA อสุจิ (sperm DNA integrity) ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและเจริญเติบโตของตัวอ่อน ระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นใน DNA ของอสุจิ (sperm DNA damage) จะส่งผลให้อัตราการปฏิสนธิลดลง, อัตราการฝังตัวของตัวอ่อนลดลง และอัตราการแท้งที่สูงขึ้น
สาเหตุที่ทำให้เกิด Sperm DNA Fragmentation
1.การสร้างอสุจิ (Process of spermatogenesis): ในระหว่างการสร้างอสุจิจะมีการ Apoptosis เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการสร้างอสุจิที่มากเกินไป (Over proliferation) และกระบวนทำลายอสุจิที่ผิดปกติ อสุจิที่ผิดปกติจะถูกติดเครื่องหมายไว้ที่เซลล์เพื่อรอให้เม็ดเลือดขาวมาทำลายต่อไป ถ้ากระบวนการดังกล่าวถูกรบกวน อสุจิที่ผิดปกติจะสามารถหลุดรอดปนออกมาในน้ำอสุจิได้ นอกจากนี้กระบวนการสร้างสายพันธุกรรมที่ผิดปกติจะส่งผลถึงความแข็งแรงของตัวอสุจิจนเกิด DNA damage ได้
2.Post-Testicular Sperm DNA Fragmentation: มีผลการวิจัยรายงานว่าปริมาณของ DNA fragmentation ของอสุจิที่หลั่งออกมา (Ejaculated sperm) มีค่าสูงกว่าอสุจิที่ได้จากอัณฑะ (Testicular sperm) เพราะภายในถุงเก็บอสุจิ (Epididymis) จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง thiol disulfide ส่งผลให้ Chromatin ไม่เสถียรและเกิด การแตกหักของ DNA ในที่สุด
3.Oxidative stress: เป็นภาวะที่มีสาร Reactive oxygen species (ROS) มากเกินไป จนทำให้เป็นอันตรายต่ออสุจิ อสุจิจะมีความไวต่อการเกิด Oxidative stress เพราะบริเวณเยื่อบุเซลล์ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) ที่ทำปฏิกิริยาได้ง่ายกับสาร ROS นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปร่างและการทำงานจนเกิด DNA damage
4.Environmental Toxicants: มีรายงานว่า ผู้ที่ได้รับมลพิษภายในสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มที่ระดับของ DNA damage ที่สูงขึ้น
วิธีการลด Sperm DNA Fragmentation
1.Abstinence period: มีงานวิจัยเสนอว่า การงดหลั่ง 1 วันก่อนการเก็บน้ำอสุจิเพื่อทำการรักษา ช่วยลดการแตกหักของ DNA เนื่องจากอสุจิใช้เวลาอยู่ในถุงเก็บอสุจิ (Epididymis) น้อย อสุจิที่อยู่ในถุงเก็บอสุจิเป็นเวลานานจะนำไปสู่การเสื่อมสภาพของโปรตีนใน DNA จนนำไปสู่การแตกหักของ DNA ในที่สุด ทว่าน้ำอสุจิที่งดหลั่งเป็นเวลา 1 วันเทียบกับ 5 วันพบว่า จะมีปริมาณของอสุจิที่เจริญไม่เต็มที่ (Immature sperm) จำนวนมาก ซึ่งอสุจิเหล่านี้สามารถผลิตสาร ROS มาทำลาย DNA ของอสุจิที่เจริญเติบโตแล้ว (mature sperm)
2.Anti-oxidant: สาร Anti-oxidant จะป้องการ DNA จากการเกิด Oxidative stress ได้แก่ วิตามิน C วิตามิน E หรือสังกะสี (Zinc)
3.Technique: เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted reproductive technology: ART) ที่กระทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถลดความเสี่ยงในการแตกหักของ DNA ได้แก่ Time: การปล่อยน้ำอสุจิทิ้งไว้เป็นเวลานานจะยิ่งทำให้เกิดการแตกหักของ DNA เพิ่มขึ้น ดังนั้นหลังจากที่หลั่งเสร็จควรเริ่มกระบวนการคัดแยกอสุจิทันที (Sperm preparation) Preparation: ปัจจุบันมีเทคนิคในการคัดแยกอสุจิหลายวิธี เช่น Swim up หรือ Density gradient เพื่อแยกอสุจิที่มีชีวิต ออกจากอสุจิที่ตายแล้ว ซึ่งเทคนิคดังกล่าวมีผลการวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับว่า สามารถลด Sperm DNA fragmentation ได้ Magnetic activated cell sorting (MACs): เทคโนโลยีที่ช่วยคัดแยก Apoptotic sperm ออกจากน้ำอสุจิ เนื่องจากอสุจิดังกล่าวเป็นเซลล์ที่ผิดปกติ ที่ไม่ถูกกำจัดและหลุดรอดออกมา หลังจากทำ MACs พบว่าจำนวนอสุจิที่ DNA damage ลดลงและความสามารถในการเจาะไข่เพิ่มขึ้น (Oocyte penetration) Testicular sperm: ด้วยวิธีนี้จะทำให้ปริมาณ DNA fragmentation ของอสุจิมีค่าลดลง แต่วิธีการดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับเคสที่เกิดความผิดปกติภายใน chromatin หรือความผิดปกติในการสร้างอสุจิ นอกจากนั้นยังเป็นวิธีที่ invasive คือต้องผ่าตัดหรือใช้เข็มเพื่อดูดอสุจิจากอัณฑะโดยตรงเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีบุตรที่สมบูรณ์และแข็งแรง หลังตรวจพบว่า Sperm DNA fragmentation มีค่าสูงควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุ และวิธีการรักษาที่ถูกต้องต่อไป