ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเจตนิน
รู้จักเจตนินได้ยังไง
คุณจูน : ต้องบอกก่อนว่าจูนไม่ได้ทำที่เจตนินเป็นที่แรก จูนเคยไปปรึกษาและเริ่มรักษากับที่อื่นมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็เลยเสิร์ชหาใน Social Media แล้วเจอเจตนิน รู้สึกว่าน่าสนใจเพราะมีอาจารย์หมอหลายท่าน เลยตัดสินใจมาที่นี่
ผู้ชาย : ตอนนั้นเราตัดสินใจย้ายมาเจตนิน เพราะว่าผมตรวจเช็คอัพร่างกายแล้วทางนั้นแจ้งว่าสาเหตุมีลูกยากของคู่เรานั้นเกิดจากผมที่มีอสุจิผิดปกติเลยทำให้โอกาสที่จะมีลูกคือเป็น 0% แต่ตอนนั้นเรายังไม่เชื่อนะครับ เราก็เลยคุยกันเลยตกลงกันว่างั้นเราเปลี่ยนที่กันดีกว่า
ความรู้สึกแรกหลังจากมาโรงพยาบาลเจตนินและพบคุณหมอ
คุณจูน: จูนจำได้ดีว่าความรู้สึกแรกในวันนั้นคือคุณหมอพูดว่าเราสามารถมีลูกได้ขอแค่คุณผู้ชายมีอสุจิเพียงแค่ตัวเดียว จูนก็สามารถตั้งครรภ์ได้นะ พอเราสองคนได้ยินแบบนี้ เราก็ดีใจและเราก็รู้สึกมีความหวังมาก ๆ
คุณผู้ชาย : หลังจากนั้นก็เลยตกลงกันว่าจะทำที่นี่ ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการครับ ผมเริ่มจากการตรวจเช็คอัพใหม่หมด แล้วคุณหมอก็แจ้งว่าจริงๆ โอกาสของผมไม่ใช่ 0% ผมมีโอกาสมากกว่านั้นอาจจะแค่ 1% หรือ 2% แต่นั่นก็คือโอกาสแล้ว ไม่ใช่เหมือนที่แรกที่บอกไว้
ความประทับใจ…ตลอดทางของการรักษากับคุณหมอ ที่โรงพยาบาลเจตนิน
คุณจูน : ถ้าตัดในช่วงเริ่มแรกที่เป็นปัญหาเรื่องอสุจิของคุณสามีออกไป ระหว่างทางการรักษาของคู่เราแทบจะไม่มีเลย เรากลับรู้สึกดีมาก สบายใจ และวางใจมาก ๆ ตลอดทางในการรักษา จูนได้มีโอกาสรักษากับหมอพิม ซึ่งหมอพิมดูแลจูนดีมาก ใจดี พูดคุยเป็นกันเอง ให้คำปรึกษาแบบตรงไปตรงมาแล้วเข้าใจง่าย จูนรู้สึกประทับใจหมอพิมมากค่ะ ตอนที่จูนถึงขั้นตอนการย้ายตัวอ่อน หมอพิมไม่ได้แค่จะใส่ ๆ ไปเพื่อให้จูนท้อง แต่หมอพิมอธิบายถึงเหตุและผลให้ฟังของการใส่ตัวอ่อน 1ตัว 2 ตัว หรือ 3 ตัว ความอันตราย หรือความเสี่ยง ทั้งหมดที่หมอพิมพูดมาจูนดูออกว่าหมอพิมค่อนข้างใส่ใจมาก ๆ
ในฐานะที่คุณจูนมีอาชีพเป็น Influencer คุณจูนมีวิธีแบ่งเวลายังไงบ้าง การทำเด็กหลอดแก้วกระทบกับอาชีพบ้างมั้ย
คุณจูน : ต้องบอกก่อนว่าเริ่มแรกหลายคนอาจจะคิดว่าการทำเด็กหลอดแก้วนั้นน่าจะดูวุ่นวาย เพราะต้องมีการฉีดยาทุกวัน ต้องมาพบหมอตลอด แต่สำหรับจูนคือสบายมาก คุณหมอและจูนคุยกันเราวางแผนวันและเวลา และดำเนินการทุกอย่างแบบเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ ซึ่งไม่กระทบเวลาการทำงานของจูนเลย
ระหว่างการรักษาจนไปถึงทราบแล้วว่าตั้งครรภ์ ตอนนั้นคุณจูนและคุณผู้ชายรู้สึกอย่างไรบ้างคะ
คุณจูน : ถ้าถามถึงขั้นตอนระหว่างการรักษาจูนรู้สึกว่าเหมือนเรากำลังลุ้นหวยเหมือนกันนะ มีความรู้สึกลุ้นทุกขั้นตอน จะเก็บไข่ได้เท่าไหร่ จะได้ตัวอ่อนกี่ตัว ถ้าใส่ไปแล้วจะติดมั้ย ทุกอย่างมันต้องลุ้นหมดเลย พอหลังจากที่ทราบแล้วว่าท้องแน่ ๆ เราก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี พอคลอดออกมา ก็พึ่งเข้าใจเนี่ยแหละว่าความรู้สึกของคนเป็นแม่มันอย่างยังไง มันมีทั้งความรู้สึกดีใจ ตื่นเต้น เราอยากเฝ้ามองการเติบโตของเค้าแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อยากให้เค้าโตไปเป็นเด็กที่แข็งแรง มีความสุข
คุณผู้ชาย : จริง ๆ ก็ตื่นเต้นมากครับลุ้นเหมือนกัน แต่เราสองคนไม่เครียด ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้มันควรจะเป็น พอทราบแล้วว่ามีน้องจริง ๆ ก็มีความสุขมากครับ ตื่นเต้น เฝ้ารอดูเค้าเติบโตไปทุกวัน
เราสองคนอยากมีคนที่สอง…และเราไม่ลังเลที่จะกลับมาที่เจตนินอีกครั้ง
คุณผู้ชาย : หลังจากเรามีคนแรกไปแล้ว น้องก็สมบูรณ์ แข็งแรงสุขภาพดี เราสองคนเลยตั้งใจจะมีคนที่สองอีก เรากลับมาโดยไม่ลังเลเลย แล้วครั้งนี้เราก็สมหวังกลับไปอีกเหมือนเดิม เจตนินยังเหมือนเดิม คุณหมอ พยาบาล ทุก ๆ คน ยังน่ารักเหมือนเดิม
คุณจูน : ตอนนั้นก็คุยกันว่าอยากมีคนที่สองแล้วนะ เราก็เห็นตรงกันว่าเราจะกลับไปที่เจตนินอีก ซึ่งก็อย่างที่คุณผู้ชายบอก เราก็ยังคงประทับใจและแฮปปี้ทุกครั้งที่ได้มาที่นี่
อยากบอกอะไรกับคนที่ยังไม่สมหวัง
คุณจูน : อยากบอกว่าทุกอย่างมันค่อนข้างใช้เวลา อย่างเราสองคน เราไม่เครียดเลย เราปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามแบบที่มันควรจะเป็น เชื่อหมอ ทำตามคำแนะนำ แต่ถ้ามันไม่ได้จริง ๆ ก็ปล่อยมันไป แล้วเริ่มใหม่อีกครั้งนึงก็ได้ เราแทบจะไม่คาดหวัง พอเราไม่คาดหวังเราเลยไม่ได้มีความเครียดอะไร
คุณผู้ชาย : เช่นกันครับ อย่าไปเครียดในสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง ค่อย ๆ ทำตามขั้นตอนที่หมอบอกไป แล้ววันนึงเมื่อทุกอย่างที่เราตั้งใจทำแบบเต็มที่ที่สุดแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่เป็นไร เพราะเริ่มใหม่ได้เสมอครับ