ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเจตนิน
ภาพของคำว่าครอบครัวที่มีพ่อแม่และลูกยังคงเป็นภาพที่อบอุ่นมากที่สุดสำหรับบางคน เช่นเดียวกันกับครอบครัวของคุณตั้วและคุณทรายที่แต่งงานมายาวนานกว่า6-7 ปีและพยายามที่จะลูกน้อยเพื่ออยากให้ภาพในฝันนั้นเป็นจริง บทสัมภาษณ์ที่อบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ที่วันนี้เราอยากจะมาแชร์เรื่องราวทั้งหมดผ่านบทสัมภาษณ์บทนี้เพื่อเป็นกำลังใจดี ๆ ให้กับทุกท่าน
จุดเริ่มต้นในการตัดสินใจว่าอยากมีน้อง
คุณตั้ว : เราแต่งงาน 6-7ปี เรารู้สึกว่าเราอยู่กันสองคนมานานแล้ว มันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป รู้สึกว่าถ้าหากพูดถึงคำว่าครอบครัวมันอาจจะมีพ่อแม่ลูก เราเลยตัดสินใจว่าเราจะมีน้องกัน และเราพยายามมีด้วยวิธีธรรมชาติมาโดยตลอดแต่ก็ยังไม่มีน้องสักที เราเลยเริ่มรู้สึกว่าหรือเราทั้งสองคนไม่แข็งแรงกันหรือเปล่าแล้วบวกกับเราเป็นคนรักงานทั้งคู่ จนอาจจะมีความเครียดสะสมอาจจะเป็น 1 ในสาเหตุด้วย
คุณทรายเสริมต่อว่า : เราสองคนก็เริ่มอายุเยอะแล้วเลยตัดสินใจว่าจะเลือกรักษาด้วยวิธี ICSI เลยดีกว่า ไม่อยากเสียเวลาแล้ว
ถ้ารักษามีบุตรยาก..ก็คงต้องเป็นเจตนิน
เราสองคนรู้จักเจตนินมานานแล้วเพราะมีเพื่อนที่อยู่ในแวดวงของสายงานนักวิทย์ด้วย เราก็พอจะทราบว่าถ้าหากมีบุตรยากก็ต้องเป็นเจตนิน เจตนินเลยเป็นที่เดียวที่เราเลือก จากนั้นเราก็หาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับการรักษาต่าง ๆ ก็เลยยิ่งมั่นใจว่าเจตนินนี่แหละน่าจะตอบโจทย์เราสองคนมากที่สุด
สาเหตุที่ทำให้เราสองคนมีบุตรยาก
คุณทราย : พอเข้ามาพบกับคุณหมอแล้วทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ผลออกมาพบว่าคุณตั้วมีน้ำเชื้อน้อย ไม่ปกติ รวมถึงตัวทรายเองก็มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูกด้วย คุณหมอก็ไม่รอช้าค่ะเริ่มวางแผนการรักษาทันที และได้มีการแนะนำให้เราสองคนตรวจโครโมโซมตัวอ่อนด้วยเนื่องจากเราสองคนอายุเริ่มเยอะแล้ว เราสองคนก็เชื่อทุกอย่างแบบไม่สงสัยทำหมดทุกอย่างค่ะ
เตรียมตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ถ้าถามว่าตอนรักษาเครียดมั้ย จะบอกว่าไม่เลยก็คงไม่ใช่ แต่ว่าเราว่าเราค่อนข้างเตรียมตัวมาอย่างดี ก่อนเริ่มรักษาเราก็ทานวิตามิน ดูแลตัวเอง และเราศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปล่อยใจสบาย ๆ ฟังคุณหมอและทำตามวิธีที่คุณหมอแนะนำอย่างเดียว
อย่างตอนย้ายตัวอ่อนเราก็พยายามใช้ชีวิตแบบมีความสุขที่สุด ดูหนังฟังเพลง ดูสิ่งที่เราชอบแค่นั้น
คุณตั้วเสริมต่อว่า : ในส่วนของผมมีหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุดไม่ว่าจะทำอะไร ยิ่งตอนหลังย้ายตัวอ่อนก็ดูแลเป็นพิเศษเลยครับ แต่ขอชื่นชมคุณทราย ที่เค้าค่อนข้างมีความรู้แล้วก็หาข้อมูล รวมทั้งดูแลตัวเองดีมาก ๆ อยู่แล้ว ต้องชื่นชมครับ
เราถามต่อว่ารู้สึกอย่างไรบ้างหลังจากที่คุณทรายย้ายตัวอ่อน คุณตั้ว : ยอมรับว่าลุ้นทุกวัน ถามคุณทรายทุกวันว่ามีอาการอะไรบ้าง ถึงขนาดเก็บไปฝันเลย เพราะเราทำครั้งแรกด้วยเราก็อยากให้ติดเลยไม่อยากให้คุณทรายเจ็บ
คุณทรายเสริมต่อว่า : ลุ้นมาก ๆ จริงค่ะ แอบตรวจทุกวันเลย เราลูบท้องทุกวันแล้วบอกว่ามานะลูก มาเกิดเป็นลูกแม่นะ พอได้รับการคอนเฟิร์มจากหมอพิมก็ดีใจมาก ๆ และในที่สุดโชคดีก็เป็นของเรา
ลูกเป็นหนังสือเล่มใหม่…แต่เป็นหนังสือเล่มที่เราอ่านแล้วเรามีความสุขมากที่สุดเลย
คุณตั้ว : แต่ก่อนผมเคยคิดว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงไม่น่ายาก แต่พอมีจริง ๆ รู้เลยว่ามันไม่ง่ายที่เราจะเลี้ยงเด็กคนนึงยังไงให้เค้าเติบโตมาอย่างดี เลี้ยงยังไงให้ใช้ชีวิตได้แบบมีความสุข
คุณทรายเสริมต่อว่า : เพาะลูกคือ chapter ใหม่ของชีวิตเรา ลูกเป็นหนังสือเล่มใหม่ที่เราสองคนต้องเรียนรู้ทุกวัน วันนี้เราจะเจออะไรบ้าง แต่เชื่อมั้ยว่าเป็นหนังสือเล่มที่เราอ่านแล้วเรามีความสุขมากที่สุดเลย
ความประทับใจที่ได้มารักษาที่เจตนิน
จากที่ฟังคนอื่นเล่าและศึกษาข้อมูลมาถ้าหากอยากสมหวังมีน้อง ให้มาเจตนิน เจตนินเลยเป็นที่เดียวที่เราเลือกพอวันนี้ที่เราประสบความสำเร็จแล้วก็อยากบอกต่อว่าต้องเจตนิน จริง ๆ เราสองคนเลือกไม่ผิดจริง ๆ และขอบคุณหมอพิมมาก ๆ ตลอดทางการรักษาหมอพิมเป็นหมอที่เราจะไม่มีวันลืมเลย เชื่อแล้วที่หลาย ๆ คน ชอบพูดว่า ใครที่ได้พูดคุยและรักษากับหมอพิม จะรู้สึกเหมือนหมอพิมเป็นเพื่อน เป็นคนในครอบครัว วันนี้เราสองคนก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
จดหมายน้อยถึง…ลูก
“ขอบคุณที่ให้โอกาสพ่อกับแม่ให้ดูแลหนู พ่อดีใจมาก เพราะหนูคือของขวัญของพ่อกับแม่ พ่อสัญญาว่าจะดูแลของขวัญชิ้นนี้ให้ดีที่สุดเลยเท่าที่พ่อจะดูแลได้เลย”
“คุณทรายเสริมต่อ แม่ก็จะดูแลให้ดีที่ที่สุด แม่ขอให้หนูเติบโตขึ้นมาอย่างดี เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข จะคอยซัพพอร์ต จะคอยดูแล อยู่ตรงนี้ จนกว่าลูกจะเติบโต”
