ในกระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยวิธี Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) จะต้องมีการกระตุ้นไข่ในรังไข่ให้มีการเจริญเติบโตพร้อมกันหลาย ๆ ใบ หลังจากกนั้นจะเก็บไข่ออกจากรังไข่ โดยไข่ที่เก็บได้นั้นจะถูกนำมาแยกเซลล์พี่เลี้ยง (Cumulus) ออก เพื่อจะดูว่าไข่ที่เก็บได้นั้น เป็นไข่ที่เหมาะจะนำมาทำ ICSI ต่อหรือไม่ เนื่องจากไข่ที่เก็บมาได้ทั้งหมด อาจจะเป็นไข่ในระยะที่เป็นไข่อ่อน ซึ่งไม่สามารถนำไปทำ ICSI ได้
ไข่ที่ยังเป็นไข่อ่อนอยู่นี้ ทางห้องปฏิบัติการจะทำการเลี้ยงต่อเพื่อติดตามผลในวันถัดไป ซึ่งเราพบว่า ไข่อ่อนบางใบสามารถเจริญเติบโตต่อไปเป็นไข่ในระยะที่สามารถนำไปทำ ICSI ต่อได้ เรียกว่า การทำ ICSI Late Mature Oocyte (ICSI/LM) โดยการทำ ICSI/LM จะเหมือนการทำ ICSI แบบปกติทุกประการ ต่างกันแค่พียงไข่ที่นำมาทำ ICSI/LM นั้นเป็นไข่ที่โตช้ากว่าไข่ใบอื่นที่ได้จากการเจาะเก็บไข่ในรอบเดียวกันเท่านั้น แต่ก็ดีกว่าที่เราจะต้องเสียไข่ที่สามารถนำมาทำ ICSI ได้ไปโดยเปล่าประโยชน์
ถึงแม้ว่าอัตราการเจริญเติบโตของตัวอ่อนจากการทำ ICSI/LM อาจจะน้อยกว่าการทำ ICSI ในรอบธรรมดา แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การทำ ICSI/LM เป็นการช่วยเพิ่มจำนวนตัวอ่อนที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อนกลับสู่โพรงมดลูกได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนไข้ที่ไม่มีตัวอ่อนจากการทำ ICSI ในรอบธรรมดา และคนไข้ที่มีตัวอ่อนที่ค่อนข้างน้อยจากปัจจัยต่าง ๆ รวมไปถึงในกรณีที่ไม่มีตัวอ่อนที่เหมาะสมที่จะสามารถย้ายกลับโพรงมดลูกได้
ดังนั้นการทำ ICSI Late Mature Oocyte จึงถือว่าเป็นการเพิ่มจำนวนตัวอ่อน เพิ่มโอกาสใส่กลับ และนั่นก็หมายถึงโอกาสในการประสบความสำเร็จในกระบวนการรักษาผู้มีบุตรยากที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
บทความโดย
ทนพญ.ณิชนันทน์ ส่งประยูรวงษ์
นักเทคนิคการแพทย์ ห้องปฏิบัติการเลี้ยงตัวอ่อน