ปัจจุบันคนรุ่นใหม่แต่งงานช้าลง และแนวโน้มมีบุตรเมื่ออายุมากขึ้น การวางแผนครอบครัวเพื่อมีบุตรในอนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญฝ่ายหญิงมีการแช่แข็งไข่ ฝ่ายชายก็ควรแช่แข็งอสุจิเก็บไว้เช่นกัน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง และเพื่อโอกาสสำเร็จในการมีบุตรในอนาคต
ในประเทศไทยจากสถิติกระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับ ในชายไทย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดีมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตามลำดับ
การแช่แข็งอสุจิจึงมีความสำคัญในกำรสร้างครอบครัวของคุณผู้ชายในอนาคต
คุณผู้ชายที่มาแช่แข็งอสุจิเก็บไว้เพื่อใช้ในอนาคตไม่ได้รับความนิยมเท่าการแช่แข็งไข่ของผู้หญิง เหตุผล ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ชายสามารถสร้างอสุจิได้ถึงแม้ว่าอายุจะเพิ่มมากขึ้น แตกต่างกับผู้หญิงที่มีข้อจำกัดด้านอายุ และจำนวนไข่ แต่อย่างไรก็ตามการแช่แข็งอสุจิก็มีความสำคัญนอกจากเรื่องอายุแล้ว ผู้ชายที่มีการรักษาโรคต่าง ๆ ด้วยยา สารเคมี รังสี หรือการผ่าตัด ที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ การแช่แข็งอสุจิ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการรักษาอสุจิที่คุณภาพดีไว้ก่อนการรักษาโรคนั้น ๆ เช่นในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ตัวเซลล์มะเร็งเองก็จะทำลายกระบวนการสร้างอสุจิ (Spermatogenesis) ตั้งแต่
ระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็ง โดยบางรายมีจำนวนอสุจิลดลง ร้ายแรงที่สุดคือตรวจไม่พบอสุจิเลย (Azoospermia) และเมื่อได้รับการรักษาด้วย Chemotherapy สารเคมีก็จะไปยับยั้งการเจริญเติบโตและพัฒนาของเซลล์ต้นกำเนิดการสร้างอสุจิ รวมถึงกระบวนการสร้างเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายเช่น ระบบโลหิต เป็นต้น จนเมื่อรักษาจนหายดีแล้ว มีเพียง 20-50% ของผู้ป่วยเท่านั้น ที่ระบบสืบพันธุ์จะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของมะเร็งนั้น ๆ ด้วย