ในภาวะที่ฝ่ายชายไม่มีตัวอสุจิในน้ำเชื้อ (Azoospermia) เกิดจากอะไรได้บ้าง
1. เกิดการอุดตันของท่อนำอสุจิ ซึ่งสามารถเป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดจากการอักเสบของท่ออสุจิ
2. เกิดความผิดปกติของการทำงานของอัณฑะ ที่อาจเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ฮอร์โมน การได้รับการฉายรังสี ยาเคมีบำบัด
3. กลุ่มที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนทำงานไม่ปกติ
ฝ่ายชายที่ประสบปัญหาดังกล่าว สามารถมีบุตรได้โดยการหาตัวอสุจิโดยตรงที่ส่วนของอัณฑะ หรือแม้แต่ฝ่ายชายที่ไม่สามารถ หลั่งอสุจิได้ในวันที่มีการเก็บไข่ อาจเนื่องมาจากภาวะความไม่พร้อมทางร่างกายและ/ หรือทางจิตใจ อย่างไรก็ตาม อสุจิที่ได้จากการเจาะเก็บจากอัณฑะโดยตรง จะไม่สามารถนำไปใช้ในวิธีฉีดเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูกฝ่ายหญิง (IUI) ได้ เนื่องจากปริมาณอสุจิที่ได้ไม่เพียงพอต่อการฉีดเชื้อ ตัวอสุจิที่ได้นั้นจะต้องนำมาปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือที่เรียกว่าการทำICSI เท่านั้น โดยมีวิธีแบ่งเป็น 4 วิธีดังนี้
– PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) คือการใช้เข็มแทงผ่านผิวหนังบริเวณอัณฑะเข้าไปในท่อพักน้ำเชื้อแล้วดูดตัวอสุจิออกมา
– TESE (Testicular Epididymal Sperm Extraction) คือการผ่าตัดเอาเนื้ออัณฑะออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วแยกตัวอสุจิที่อยู่ในเนื้ออัณฑะออกมาด้วยวิธีการทางห้องปฏิบัติการ
– TESA (Testicular Sperm Aspiration) คือการใช้เข็มแทงผ่านผิวหนังบริเวณอัณฑะเข้าไปในลูกอัณฑะแล้วดูดตัวอสุจิออกมา
– MESA (Microsurgical Epididymal Sperm Aspiration) คือการผ่าตัดเข้าไปที่ท่อพักน้ำเชื้อส่วน epididymis แล้วจึงใช้เข็ม แทงเข้าไปและดูดตัวอสุจิออกมา
เมื่อฝ่ายชายตรวจน้ำอสุจิ แล้วพบว่าไม่มีตัวอสุจิ ไม่ได้แปลว่าจะไม่สามารถมีลูกได้ การเก็บอสุจิด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีให้กับฝ่ายชายที่มีปัญหาไม่มีตัวอสุจิจากการเก็บด้วยวิธีปกติได้
บทความโดย
น.ต.นพ.ภิญโญ หรรษาจารุพันธ์
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติศาสตร์นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
โรงพยาบาลเจตนิน